Strawberry Cake (เค้กสตรอว์เบอร์รี่)

Print

เค้กสตรอว์เบอร์รี่สูตรนี้มีความพิเศษด้วยตัวเนื้อเค้ก นั้นมีส่วนผสมของสตรอว์เบอร์รี่สดอยู่มากทีเดียว และยังเคลือบด้วยไวท์ช็อกโกแลตรสกลมกล่อม แถมตบแต่งด้วยผมสตรอว์เบอร์รี่ที่เคลือบด้วยน้ำตาลสวยงาม

ที่มา

สูตรโดย : พล ตัณฑเสถียร

ส่วนประกอบ


  • เค้กสตรอว์เบอร์รี่

  • แป้งเค้ก165 กรัม

  • ผงฟู1⁄2 ช้อนชา

  • เบกกิ้งโซดา1⁄2 ช้อนชา

  • เกลือ1⁄2 ช้อนชา

  • สตรอว์เบอร์รี่180 กรัม

  • นมข้นจืด40 มิลลิลิตร

  • น้ำส้มสายชู1 ช้อนโต๊ะ

  • น้ำมันรำข้าว100 มิลลิลิตร

  • ไข่ไก่2 ฟอง

  • น้ำตาลทราย160 กรัม

  • ไวท์ช็อกโกแลตคอมพาวด์เคลือบหน้า

  • สตรอว์เบอร์รี่เคลือบน้ำตาล

  • น้ำตาลทราย160 กรัม

  • น้ำ2 ช้อนโต๊ะ

  • สีผสมอาหาร(ถ้าต้องการให้น้ำตาลมีสี)

  • สตรอว์เบอร์รี่12 ผล

วิธีทำ


เค้กสตรอว์เบอร์รี่

1.ร่อนแป้งเค้ก ผงฟูและเบกกิ้งโซดาผสมกับเกลือพักไว้

2.ทำความสะอาดสตรอว์เบอร์รี่ ล้างน้ำสะอาด และซับให้แห้ง แล้วนำไปปั่นกับน้ำมัน น้ำส้มสายชู และนมให้เข้ากันดี

3.ตีไข่กับน้ำตาลจนฟู เนียนและสีอ่อนลง

4.ตีไข่ไก่กับน้ำตาลทรายจนฟูเนียนและสีอ่อนลง

5.เทส่วนผสมใส่ในพิมพ์เส้นผ่าศูนย์กลาง 7 นิ้วที่รองด้วยกระดาษไขนำเข้าเตาอบที่ 190 องศาเซลเซียส ประมาณ 20 – 30 นาที

6.เทส่วนผสมใส่ในพิมพ์ที่ต้องการจะใช้อบทำเป็นคัพเค้ก เค้กทรงกลม เค้กปอนด์หรือทรงอะไรที่ต้องการก็ได้ แต่พยายามอย่าให้ตัวเค้กมีความสูงมากกว่า 2 นิ้ว เนื่องจากเค้กด้านในจะสุกยาก ในขณะที่ด้านนอกอาจจะแห้งเกินไป

7.นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 190 องศาเซลเซียสประมาณ 20 – 30 นาทีตามขนาดของพิมพ์ที่ใช้

8.เมื่อเค้กสุกดีนำออกจากเตาอบพักจนเย็นลงนำออกจากพิมพ์

9.ละลายไวท์ช็อกโกแลตคอมพาวน์โดยสับเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ชามสแตนเลสวางบนหม้อน้ำร้อนคนให้ละลายดี เคลือบตัวเค้กด้วยไวท์ช็อกโกแลตพักให้เย็นลงและช็อกโกแลตอยู่ตัว


สตรอว์เบอร์รี่เคลือบน้ำตาล

1.ทำความสะอาดสตรอว์เบอร์รี่ โดยล้างออกแล้วซับด้วยกระดาษให้แห้งดี ตัดกลีบเลี้ยงออกวางด้านที่เคยมีกลีบเลี้ยงลงบนพื้นเรียบ ใช้ไม้เสียบสตรอว์เบอร์รี่ด้านที่เคยมีกลีบเลี้ยง ให้ไม้มีลักษณะขนานกับพื้น

2.ต้มน้ำกับน้ำตาลทรายจนได้ที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียสหรือระดับของน้ำตาลที่เรียกว่า Hard Crack ถ้าต้องการใส่สีก็หยดลงไปเล็กน้อยเขย่าเบาๆ ให้สีผสมกันดี(ถ้าไม่มีที่วัดอุณหภูมิสามารถทดสอบโดยการเอาช้อนตักน้ำตาลเล็กน้อย แล้วหยอดลงในน้ำเย็นถ้าน้ำตาลที่โดนความเย็นมีลักษณะแข็งดีก็เป็นอันใช้ได้)

3.พอน้ำตาลเย็นตัว ก็ดึงไม้ออก หงายน้ำตาลด้านแหลมพุ่งขึ้นบน วางแต่งบนเค้กตามใจชอบ ใช้วิปปิ้งครีมเป็นฐานรอง


แสดงความคิดเห็น


Leave a Reply