ส่วนประกอบ
พริกแกง
พริกแห้งเม็ดใหญ่5 แกะเม็ดออกแช่น้ำจนนุ่ม
ข่า (หั่นละเอียด)2 ช้อนชา
ลูกผักชี (คั่ว)1 ช้อนโต๊ะ
ลูกจันทน์ (คั่ว)1⁄4 ลูก
ยี่หร่า (คั่ว)2 ช้อนชา
เปราะ (คั่ว)1 ช้อนชา
พริกไทยขาวเม็ด1 ช้อนชา
หอมแดง (หั่นละเอียด)3 หัว
กระเทียม (หั่นละเอียด)7 กลีบ
รากผักชี (หั่นละเอียด)1 ช้อนชา
ผิวมะกรูด (หั่นละเอียด)1 ช้อนชา
ตะไคร้ (หั่นละเอียด)1 ช้อนโต๊ะ
กะปิ (ห่อใบตองย่างไฟ)1 ช้อนชา
เกลือ1⁄2 ช้อนชา
แกงเผ็ดเป็ดย่าง
เป็ดย่าง 400 กรัม
หางกะทิแบบใส 1 ถ้วย
(กะทิกล่อง ⅓ ถ้วย ผสมน้ำ ⅔ถ้วย)
หัวกะทิ 1 ถ้วย
หางกะทิ 3½ ถ้วย
(กะทิกล่อง 1¾ ถ้วย ผสมน้ำ 1¾ ถ้วย)
น้ำตาลปี๊บ1½ ช้อนชา
น้ำปลา1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันรำข้าว3 ช้อนโต๊ะ
สับปะรด100 กรัม
มะเขือเทศสีดา10 ลูก
มะเขือพวง50 กรัม
น้ำสับปะรด½ ถ้วย
ใบโหระพา½ ถ้วย
ใบมะกรูด3 ใบ
วิธีทำ
พริกแกง
1.เตรียมส่วนประกอบตามจำนวนและวิธีการตามที่ระบุไว้ โขลกเครื่องเทศที่คั่วแล้วทั้งหมดจนป่นดี ตักออกจากครก พักไว้
2.โขลกพริกแห้งเม็ดใหญ่ที่แช่น้ำจนนุ่มดีแล้วให้แหลกดี ตามด้วยเกลือและสมุนไพรต่างๆ ใส่เครื่องเทศป่นที่พักไว้กลับเข้าไป ตามด้วยกะปิจากนั้นโขลกเบาๆ จนเข้ากันดี จะได้พริกแกงประมาณ 120กรัม
3.หมายเหตุ: ถ้าต้องการประหยัดเวลา สามารถใช้พริกแกงเผ็ด 100 กรัม แต่ให้เพิ่มลูกจันทน์ป่น ½ ช้อนชา กับเปราะคั่วป่น 1 ช้อนชา
แกงเผ็ดเป็ดย่าง
1.หั่นเป็ดย่างหนาประมาณ 2 เซนติเมตร โดยหั่นจากเนื้อลงไปที่หนัง (เพราะถ้าหั่นจากหนังลงไปทีเนื้อ หนังอาจจะหลุดจากเนื้อได้)
2.นำหางกะทิแบบใสใส่หม้อตั้งไฟ พอเดือดก็นำเป็ดลงไปต้ม กะทิจะช่วยให้เนื้อเป็ดย่างนุ่มและลดกลิ่นคาว ต้มประมาณ 3 นาที ก็ตักเป็ดย่างออกมาพัก
3.ใส่น้ำมันลงในกระทะตั้งไฟต่ำถึงกลาง ผัดพริกแกงจนหอมดี แล้วจึงใส่หัวกะทิลงไปทีละนิด ให้กะทิแตกมัน แต่ไม่แยกตัว ใส่เป็ดย่างกลับลงไปผัดกับพริกแกงประมาณ 1 นาที
4.ใส่หางกะทิประมาณครึ่งหนึ่งลงในหม้อขนาดใหญ่ ตั้งไฟกลาง พอเริ่มเดือด ก็ตักเป็ดย่างกับพริกแกงใส่ลงในหม้อ ใช้หางกะทิที่เหลือล้างพริกแกงในกระทะแล้วเทตามลงไป เพื่อไม่ให้เหลือพริกแกงติดตามกระทะ
5.ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ ชิมรสและปรับรสให้กลมกล่อม
6.ใส่สับปะรด มะเขือพวงและน้ำสับปะรดลงไปแล้วเร่งไฟฉีกใบมะกรูดใส่ตามลงไป ต้มต่อประมาณ 2-3 นาที
7.หั่นครึ่งมะเขือเทศสีดาตามแนวขวาง (หั่นตามแนวยาวจะเหี่ยวง่าย) เมื่อแกงได้ที่ จึงใส่ลงไปในแกงพร้อมกับใบโหระพา เร่งไฟแรง ประมาณ 30 วินาที ก็ยกออกจากเตา (ถ้าทิ้งไว้นาน มะเขือเทศสีดาจะแตกและใบโหระพาจะดำ)
8.เสิร์ฟกับข้าวสวยหรือเส้นขนมจีนก็ได้
แสดงความคิดเห็น