ส่วนประกอบ
แป้งกระทงทอง
แป้งสาลีอเนกประสงค์65 กรัม
แป้งข้าวเจ้า65 กรัม
น้ำตาลทราย½ ช้อนชา
ไข่แดง1 ฟอง
น้ำมันรำข้าว1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปูนใส80 มิลลิลิตร
เกลือ หยิบมือ
น้ำมันรำข้าวสำหรับทอด
แสร้งว่าไก่
อกไก่ (ต้มสุก)300 กรัม
ขิง (หั่นฝอย)30 กรัม
หอมแดง (ซอย)35 กรัม
ตะไคร้ (ซอย)15 กรัม
ใบมะกรูด (ซอย)¼ ถ้วย
ส้มซ่า1 ผล
น้ำมะกรูด1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว1½ ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา1 ช้อนโต๊ะ
เกลือ½ ช้อนชา
น้ำตาลทราย1½ ช้อนโต๊ะ
พริกชี้ฟ้า สำหรับเสิร์ฟ
วิธีทำ
1.ทำแป้งกระทงทอง ผสมแป้งข้าวเจ้าและแป้งสาลีเข้าด้วยกัน ใส่น้ำตาลทราย เกลือ ไข่แดง และน้ำมัน นวดประมาณ 3 นาที ใส่น้ำปูนใสลงไปครึ่งหนึ่ง นวดจนแป้งเริ่มจับตัวเป็นก้อน เติมน้ำปูนใสที่เหลือตามลงไปนวดต่อ จากนั้นใส่ค่อยๆ ใส่น้ำสะอาด 80 มิลลิลิตร ลงในแป้งทีละน้อยจนหมด ผสมจนแป้งไม่จับตัวเป็นก้อน นำไปพัก15 นาที
2.ตั้งน้ำมันในหม้อก้นลึกสำหรับทอด แช่พิมพ์ในหม้อน้ำมันให้ร้อนดี นำขึ้นมาซับน้ำมันอย่างรวดเร็ว แล้วจุ่มลงในส่วนผสมแป้งเพื่อให้แป้งติดพิมพ์ นำลงทอด กดพิมพ์ลงที่ก้นหม้อ เพื่อให้ก้นกระทงทองเรียบแบน พอแป้งแข็งตัวก็ใช้ส้อมเขี่ยแป้งให้หลุดจากพิมพ์ ทอดต่อให้เหลืองกรอบตักขึ้นมาสะเด็ดน้ำมัน
3.ฉีกไก่เป็นฝอย ๆ ใส่ขิง หอมแดง และตะไคร้ เคล้าให้พอเข้ากัน
4.ทำน้ำแสร้งว่า โดยนำน้ำมะกรูด น้ำมะนาว น้ำปลา เกลือ และน้ำตาลทราย ผสมให้เข้ากัน ชิมและปรับรส
5.ใส่น้ำแสร้งว่าลงไปเคล้ากับส่วนประกอบของไก่ ตามด้วยใบมะกรูดซอย
6.ตักแสร้งว่าไก่ลงในกระทะทอง หั่นเนื้อส้มซ่าเป็นกลีบ ๆ วางลงบนด้านบน แต่งด้วยพริกชี้ฟ้าซอย
7.หมายเหตุ - มะกรูดต้องเขียวดี ถ้าแก่เหลืองจะมีกลิ่นเหม็น การคั้นน้ำมะกรูด ต้องปอกเปลือกก่อน มิฉะนั้น น้ำจะขม - กระทงทองสมัยโบราณใส่กะทิ แต่แป้งจะแข็งกรอบ
แสดงความคิดเห็น