Banana Red Curry with Roasted Pork (แกงเผ็ดหมูย่างกล้วยไข่)

Print

กล้วยผลไม้ไทยที่ทานได้ทั้งสุก ห่าม จนถึงผลอ่อน ที่บางพื้นที่เรียกกันว่ากล้วยกินดิบ นำมาปรุงเป็นแกงอร่อย โดยคัดกล้วยอ่อนผลเขียวๆ เปลือกสีเขียวสด หากจะให้อร่อยตามต้นตำรับควรใช้ กล้วยเล็บมือนางหรือกล้วยไข่ เพราะมีเนื้อสัมผัสเหนียวนุ่ม เมื่อปรุงสุกเนื้อจะหนึบไม่เละ รสสัมผัสออกจะคล้ายมัน หากแต่มีกลิ่นที่หอมชวนลิ้มลองยิ่งกว่ามัน

ที่มา

พลพรรคนักปรุง 2 กรกฎาคม 2558
สูตรโดย : พล ตัณฑเสถียร

ส่วนประกอบ


  • หมูย่าง

  • สันคอหมู250 กรัม

  • กะทิ3 ช้อนโต๊ะ

  • เกลือ¼ ช้อนชา

  • พริกไทยดำ¼ ช้อนชา

  • แกงเผ็ด

  • น้ำพริกแกงเผ็ด75 กรัม

  • น้ำมันรำข้าว2 ช้อนโต๊ะ

  • ลูกผักชี (คั่วป่น)½ ช้อนชา

  • ยี่หร่า (คั่วป่น)¼ ช้อนชา

  • กะทิ500 มิลลิลิตร

  • กล้วยไข่ดิบ200 กรัม

  • น้ำปลา1 ช้อนชา

  • น้ำตาลปิ๊บ1 ช้อนโต๊ะ

  • ใบมะกรูด (ฉีก)5 ใบ

  • ใบโหระพา¼ ถ้วย

  • พริกชี้ฟ้าสีแดง1 เม็ด

วิธีทำ


1.ปอกเปลือกกล้วยบางๆ ให้เหลือเยื่อด้านในที่เป็นสีเขียวไว้ หั่นเป็นชิ้นตามต้องการ นำไปแช่ในน้ำใส่เกลือ พักไว้ 2 นาที ก่อนที่จะนำไปต้มในน้ำเดือดนานประมาณ 3 นาที ตักออกมาล้างด้วยน้ำเย็นเพื่อหยุดความร้อน พักไว้

2.หมักหมูกับกะทิ เกลือ และพริกไทยดำประมาณ 20 นาที

3.ผสมพริกแกงเผ็ดกับลูกผักชี และยี่หร่า ใส่น้ำมันลงในหม้อ พอร้อนดี ก็ใส่พริกแกงลงไปผัดให้สุกดี ใส่กะทิ 150 มิลลิลิตรลงไป พอเดือดก็ลดไฟ ผัดให้แตกมันประมาณ 2 นาที ผสมกะทิที่เหลือกับน้ำสะอาด 1 ถ้วยเพื่อให้เป็นหางกะทิ ใส่ตามลงไป คนให้เข้ากันดี

4.พอแกงเดือดอีกครั้ง ก็ใส่กล้วย ลดไฟเคี่ยวประมาณ 10 นาที ให้กล้วยนุ่มดี ปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำตาลปี๊บ คนให้น้ำตาลละลาย ใส่ใบมะกรูดฉีก ปิดไฟ ใส่ใบโหระพา และพริกชี้ฟ้าหั่นแฉลบ คนพอให้ผักสุก

5.ระหว่างแกง ให้นำหมูที่หมักไว้ไปจี่บนกระทะย่างให้สุกดี ประมาณ 10 นาทีหรือจนสุกดี นำหมูออกมาพักประมาณ 3 นาที หั่นเป็นชิ้นสวยงามตามต้องการ จัดใส่ชาม ตักแกงกล้วยดิบใส่ตามลงไป รับประทานกับข้าวสวยร้อน


แสดงความคิดเห็น


Leave a Reply