ในปัจจุบันนั้น นอกจากอาหารไทยที่นิยมทำกันตามบ้านเป็นประจำอยุ่แล้ว การทำขนมในสไตล์ฝรั่งก็เรียกได้ว่ากำลังได้รับความนิยมมากขึ้นทุกวันไม่แพ้การทำอาหารเลยทีเดียว ซึ่งสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญของการทำอาหารและขนมนั้น คงจะหนีไม่พ้นการเลือกใช้วัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพ โดยเฉพาะในขนมที่มีส่วนประกอบเพียงไม่กี่อย่าง
การเลือกใช้แป้ง เนย น้ำตาลทราย คุณภาพดีๆ หรือ แม้กระทั่งกลิ่นหอมที่สกัดจากธรรมชาติที่เสริมความโดดเด่นให้ขนม เรียกได้ว่าเป็นจุดตัดสินว่าขนมที่ทำออกมานั้นจะมีรสชาติที่ดีเพียงใด อย่างไรก็ตามนอกจากการเลือกใช้วัตถุดิบที่ดีแล้ว อุปกรณ์ในการทำก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อุปกรณ์ที่ใช้ในการวัดตวง เช่น ถ้วยตวง ซึ่งมีส่วนสำคัญอย่างมากในการทำขนมที่ต้องใช้ความแม่นยำ
ถ้วยตวง หนึ่งในอุปกรณ์สำคัญในการทำครัว โดยทั่วไป จะมีถ้วยตวงที่ใช้สำหรับตวงของแห้ง และถ้วยตวงสำหรับตวงของเหลว บางคนอาจมีข้อสงสัยว่าถ้วยตวงทั้งสองชนิดเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร สามารถใช้แทนกันได้หรือไม่
ในการไขข้อสงสัยนี้ เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่าหน้าที่หลักของถ้วยตวงคือ การตวงส่วนประกอบโดยปริมาตร ซึ่งจะแตกต่างจากน้ำหนัก ยกตัวอย่างเช่น ปริมาตรของน้ำ น้ำมัน และแป้งสาลี ในสัดส่วนปริมาตรเท่ากัน จะมีน้ำหนักไม่เท่ากัน
ข้อต่อไปที่เราจะต้องตระหนัก คือ ถ้วยตวงของแต่ละประเทศนั้นมีปริมาตรที่ไม่เท่ากัน เช่น 1 ถ้วยตวงของเหลวของสหรัฐอเมริกา จะมีปริมาตร 240 มิลลิลิตร แต่ 1 ถ้วยตวงของเหลวของญี่ปุ่นนั้น กลับมีปริมาตรเพียงแค่ 200 มิลลิลิตรเท่านั้น หรือแม้กระทั่งถ้วยตวงข้าวสารในญี่ปุ่นนั้นก็กลับมีปริมาตรเพียงแค่ 180 มิลลิลิตร หรือในบางประเทศ เช่นในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ 1 ถ้วยตวงของเหลว จะมีปริมาตรอยู่ที่ 250 มิลลิลิตร
เพราะฉะนั้น เวลาที่เราจะตวงส่วนประกอบ เราจึงต้องพิจารณาถึงแหล่งที่มาของสูตรอาหารที่เราใช้ด้วยเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด
และเมื่อมาถึงคำถามที่ว่า ถ้วยตวงสำหรับของแห้งและของเหลว สามารถใช้ทดแทนกันได้หรือไม่ คำตอบคือ ได้ แต่เป็นวิธีที่ไม่แนะนำ ถ้ามองในมุมของจำนวนปริมาตร เราก็ต้องดูว่าถ้วยตวงนั้นๆ มีปริมาตรเท่าไร สมมุติว่า ถ้วยตวงของแห้งและของเหลวที่เราใช้นั้น มีปริมาตรเท่ากัน การที่เราจะใช้ทดแทนกันในยามฉุกเฉินเป็นครั้งคราว ก็ไม่เป็นประเด็นสำคัญนัก แต่ถ้าจะใช้บ่อยๆ เราก็ต้องระวัง เพราะด้วยเหตุผลของรูปทรงที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานที่แตกต่างกัน ถ้วยตวงของแห้งนั้นจะถูกออกแบบมาให้ขอบถ้วยมีปริมาณที่พอดีกับปริมาตรของถ้วยตวง
แต่ในทางกลับกัน ถ้วยตวงของเหลวนั้นจะถูกทำมาให้ใหญ่กว่าขนาดปริมาตรตวงเสมอ เพื่อป้องกันของเหลวจะหกไหลออกจากถ้วยตวง โดยเราสามารถดูปริมาณของของเหลวที่ตวงได้ที่ขีดวัดข้างถ้วยตวง นอกจากนี้ถ้วยตวงของเหลวยังมีการทำปากไว้เพื่อทำให้สามารถเทของเหลวได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากรูปทรงที่ยากต่อการที่จะเกลี่ยส่วนผสมให้เรียบทำให้ถ้วยตวงของเหลวนั้น จะไม่สามารถตวงของแห้งได้อย่างแม่นยำ ในขณะเดียวกัน ถ้วยตวงของแห้งที่มีขอบถ้วยพอดี ก็ยากที่จะตวงของเหลวได้อย่างแม่นยำเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นเราควรเลือกใช้งานถ้วยตวงให้เหมาะสมกับวัตถุดิบที่เราต้องการใช้