คนที่ชอบรับประทานพาสต้าล้วนคุ้นเคยดีกับ แป้งดูรัม (Durum Flour) ส่วนประกอบหลักที่ใช้ทำเส้นพาสต้าและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง แต่หลายคนอดสงสัยไม่ได้ว่า แป้งดูรัมกับแป้งโฮลวีต แป้งชนิดใดมีคุณค่ามากกว่ากัน
ก่อนตอบคำถามนี้ เราต้องเข้าใจว่า ดูรัม (Durum) ก็เป็นข้าวสาลีพันธุ์หนึ่ง มีลักษณะแข็งมีปริมาณโปรตีน และกลูเตนสูงกว่าข้าวสาลีชนิดอื่น แป้งดูรัมก็คือแป้งสาลีจากข้าวสาลีพันธุ์ดูรัมนั่นเอง ส่วนแป้งโฮลวีต(Whole Wheat Flour) หมายถึงแป้งสาลีใด ๆ ที่โม่จากข้าวสาลีส่วนที่รับประทานได้ ทั้งเมล็ดนั่นเอง ข้าวสาลี (Wheat) เป็นธัญพืช (Cereal Grain) ชนิดหนึ่ง ภายในแกลบ (Husk) เป็นส่วนที่รับประทานได้ เรียกว่า เมล็ดข้าวสาลี (Wheat Kernel) มีส่วนประกอบหลัก 3 ส่วน ได้แก่
- เอนโดสเปิร์ม (Endosperm)เป็นแหล่งสารอาหารคาร์โบไฮเดรต
- รำ (Bran)เป็นชั้นเปลือกหุ้มเมล็ดข้าวสาลี เป็นส่วนที่รับประทานได้ อยู่ถัดเข้ามาจากแกลบ (Husk) ซึ่งรับประทานไม่ได้
- คัพภะ (Germ)หรือจมูกข้าว เป็นแหล่งสะสมอาหารสำหรับต้นอ่อน
แป้งโฮลวีตมีส่วนประกอบหลักครบ 3 ส่วน จึงมีคุณค่าทางอาหารสูงกว่าแป้งสาลี ที่ทำจากส่วนเอนโดสเปิร์มเพียงส่วนเดียว
เส้นพาสต้าทั่วไปทำจากส่วนเอนโดสเปิร์มของข้าวสาลีดูรัม ซึ่งเป็นส่วนที่ได้ยินกันคุ้นหูว่า เซโมลินา (Semolina) นำไปผสมกับน้ำและบดจนมีลักษณะเป็นโดเหนียว แล้วนำไปผ่านขบวนการขึ้นรูปเป็นเส้นพาสต้าที่มีรูปทรงหลากหลายเส้นพาสต้าที่ได้ จะมีสีเหลืองทองเหมือนกับเซโมลินา
แป้งดูรัมมีชนิดที่เป็นแป้งดูรัมโฮลวีตเช่นเดียวกับแป้งสาลีชนิดอื่น มีส่วนผสมของจมูกข้าว และรำข้าวซึ่งไม่ได้ขัดสีทิ้งไป ส่วนผลทำให้สีของเส้นพาสต้าเข้มขึ้นตามลำดับแป้งพาสต้าโฮลวีตบางชนิดผลิตจากแป้งดูรัมโฮลวีต 100% และบางชนิดอาจผลิตจากแป้งดูรัมโฮลวีต ผสมแป้งดูรัมแบบธรรมดาด้วย สังเกตได้จากสี รสชาติ และเนื้อสัมผัสที่แตกต่าง
แป้งสาลีโดยทั่วไปอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก วิตามินบี 1 2 3 และกรดโฟลิก แต่ถ้ารับประทานแป้งสาลีโฮลวีต ก็จะทำให้ได้คุณค่ามากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด และยังช่วยควบคุมน้ำหนักตัวได้ทางอ้อมอีกด้วย
รู้ไว้ให้เป็นทางเลือก เราต้องเลือกอาหารที่ตรงกับความต้องการของร่างกาย สุขภาพที่ดีมาจากอาหารที่ดี
ซึ่งคุณกำหนดเองได้