Food Fact

How cocoa & chocolate is made

เก็บเกี่ยว ในผลของต้น Cacao 1 ผล จะมีเมล็ดอยู่ประมาณ 20-40 เมล็ด   นำฝักโกโก้มากะเทาะเปิดออก จากนั้นนำไปหมักประมาณ 2-8 วัน ซึ่งการหมักทำให้ เมล็ดโกโก้มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของโกโก้ หลักจากหมักได้ที่แล้ว เมล็ดโกโก้ก็จะถูกนำไปตากแห้ง ก่อนทำความสะอาด และส่งไปตามโรงงาน   การคั่วทำให้รสชาติของ โกโก้มีมิติเพิ่มมากขึ้น + ลดความเปรี้ยวลง   เมล็ดโกโก้ที่ถูกคั่วแล้ว จะกะเทาะเปลือกเพื่อเอาเนื้อข้างในออกมากซึ่งเรียกว่า โกโก้นิบ (Cocoa nibs) หลังจากนั้น Cocoa nib จะถูกนำไปบด จนมีลักษณะเป็นของไหล หนืด ที่เรียกว่า Chocolate liquor หรือที่เรียกกันว่า Baking Chocolate, unsweetened chocolate Chocolate Liqour จะถูกบีบอัดเพื่อแยกส่วนของ Cocoa mass กับ Cocoa Butter ออกจากกัน   การกวนผสม เป็นการนำเอา chocolate liquor มาผสมกับ น้ำตาล นมผง ไขมันโกโก้ ในสัดส่วนที่ต้องการเพื่อทำเป็น Chocolate ในรูปแบบต่างๆ  

Tips & Tricks

Melting Moment (หลอม…ละลาย ช็อกโกแลต)

Melting Moment หลอม…ละลาย ช็อกโกแลต การละลายช็อกโกแลตเป็นเทคนิคที่ละเอียดอ่อน ถ้าร้อนเกินอาจจะแตก แยกชั้น ไม่เนียนได้ สับช็อกโกแลตโดยใช้เขียงและมีดที่ล้างสะอาดและเช็ดแห้งดี ช็อกโกแลตที่มีขนาดเล็กใช้เวลาในการละลายเร็วกว่าชิ้นใหญ่ ละลายช็อกโกแลตสับด้วยเทคนิคที่เรียกว่า Bain Marie โดยนำช็อกโกแลตภาชนะทนความร้อน วางบนปากหม้อต้มน้ำ ให้น้ำเดือดแค่พอระอุเบา ๆ ไม่เดือดพล่าน และผิวน้ำไม่สัมผัสกับก้นภาชนะ ใช้ช้อนสเตนเลสหรือพายยางทนความร้อน ซึ่งไม่มีความชื้นคนช็อกโกแลตเป็นระยะเพื่อให้ได้รับความร้อนทั่วดี

Food Fact, Tips & Tricks

Self-Rising Flour (รู้จักแป้งสาลีพร้อมขึ้นฟู)

เวลาอ่านตำราขนมอบของฝรั่ง บางครั้ง เราจะพบว่าสูตรมีการใช้ แป้งสาลีพร้อมขึ้นฟู หรือที่เรียกว่า Self- Rising Flour / Self- Raising Flour แป้งสาลีพร้อมขึ้นฟู (Self-Rising Flour) นั้นถูกคิดค้นโดยนักอบชาวอังกฤษในปี 1844 เพื่อใช้ในการทำขนมปังให้กะลาสีในกองทัพเรืออังกฤษ ซึ่งต่อมาได้ถูกเผยแพร่มายังสหรัฐอเมริกา และได้รับความนิยมโดยเฉพาะทางตอนใต้ โดยหลักการแล้ว แป้งตัวนี้ก็คือแป้งสาลีที่มีส่วนประกอบของสารช่วยขึ้นฟู (Leavening Agent) ผสมอยู่ ในบ้านเรา แป้งสาลีพร้อมขึ้นฟู (Self-Rising Flour) หาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ๆ หรือสามารถทดแทนได้ด้วย แป้งสาลีอเนกประสงค์ ผงฟู และเกลือ   ซึ่งอัตราส่วนในการทำ Self-Rising Flour ขึ้นใช้เอง คือ แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วย (140 กรัม) ต่อ ผงฟู 1 ½ ช้อนชา และ เกลือ ¼ ช้อนชา

Food Fact, Tips & Tricks

DIY 3 in 1 Chocolate Mix

เอาใจนักชงดื่มที่รักความสะดวก กับมิกซ์เครื่องดื่มช็อกโกแลตเข้มข้นที่คุณสามารถเตรียมไว้ล่วงหน้าได้ เพียงใส่น้ำร้อน นมร้อน น้ำนมถั่วเหลือง หรือแม้กระทั่งน้ำนมอัลมอนด์ ตามอารมณ์หรือระดับความข้นในรสชาติแบบที่ต้องการที่ต้องการ   ผงโกโก้ชนิดสีเข้ม 2 ถ้วย หางนมผง 2 ถ้วย น้ำตาลไอซิ่ง 2 ถ้วย How To Make ผสมส่วนประกอบทั้งหมดในชามผสม แล้วร่อนให้เข้ากัน บรรจุในขวดโหล How To Mix 3 in 1 Chocolate Drink 6 ช้อนโต๊ะ :น้ำร้อน หรือนมร้อนชนิดที่ต้องการ 200 มิลลิลิตร Gift Idea ผสมแล้วบรรจุ / แนบฉลากวิธีการชงดื่มพร้อมข้อความส่วนตัว / ผูกโบว์ให้สวยงาม

Tips & Tricks

Buttercream 101 (บัตเตอร์ครีม 101)

  บัตเตอร์ครีม ช่วยเพิ่มชีวิตชีวาให้กับคัพเค้ก หรือเค้กสปันจ์ได้อย่างมากทีเดียว การทำบัตเตอร์ครีมใช้ส่วนประกอบเพียงไม่กี่อย่าง และนี่คือเทคนิคพื้นฐานง่ายๆ ของบัตเตอร์ครีมเนื้อเนียนแสนอร่อย   คุณภาพเนยคือหัวใจ เนยเค็มหรือเนยจืดนั้น แล้วแต่ความชอบ แต่ขอให้เป็นเนยแท้ (Pure Butter) ที่มีสัดส่วนของไขมันนมที่สูง ไม่ใช่เนยเทียม หรือเนยผสม (Compound Butter / Butter Blend) พักเนยที่อุณหภูมิห้องประมาณ 20 นาที จะตีได้ง่ายขึ้น หรือหั่นเนยเป็นก้อนเล็กๆ ก็ได้เช่นกัน ในกรณีที่ใช้เครื่องแบบมือถือให้ตีด้วยความเร็วต่ำ แต่ถ้าใช้เครื่องแบบตั้งโต๊ะ ให้ใช้หัวตัวใบพาย ตีเนยให้นุ่ม และมีสีอ่อนลงเล็กน้อย เพื่อให้ได้บัตเตอร์ครีมที่เนื้อละเอียด ต้องใช้น้ำตาลไอซิ่งนำมาร่อนก่อนใช้ หรือถ้าใช้น้ำตาลทราย ให้นำไปปั่นให้ละเอียดก่อนใช้ การปาดข้างโถตีเป็นระยะ ทำให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันได้ดี เลือกพายยางที่มีความยืดหยุ่น แต่แข็งแรง เลือกรสและกลิ่นที่ต้องการ กลิ่นสกัด (extract) จะมีราคาสูงกว่ากลิ่นสังเคราะห์ (artificial) เลือกใช้กลิ่นที่มาจากธรรมชาติเท่านั้น กลิ่นบางกลิ่นจะมีรสชาติและกลิ่นที่เข้มข้นมาก เริ่มต้นใส่ที่ 1 ช้อนชา และลองชิมดูก่อน ถ้าต้องการให้เข้มข้นกว่านั้น จึงค่อยใส่เพิ่ม ในกรณีที่บัตเตอร์ครีมมีเนื้อที่หนาเกิน สามารถเจือจางได้ด้วยของเหลว เช่น นมสด นมอัลมอนด์ กาแฟ หรือแม้กระทั่งน้ำสะอาด    

Food Fact

เค็ม…แต่ดี

ปฏิเสธไม่ได้ว่าเกลือเป็นส่วนประกอบสำหรับในการใช้ปรุงอาหาร เพราะนอกจากให้รสเค็มโดยตรงแล้ว รสเค็มยังทำหน้าที่ทำให้รสชาติอื่นๆ มีความโดดเด่นขึ้นมาอีกด้วย นอกจากนั้น เกลือยังมีบทบาทในการช่วยถนอมอาหารอีกด้วย ในการปรุงอาหาร เกลือมีหลากหลายประเภท อย่างแม็คคอร์มิคเกลือทะเล (Sea Salt) นั้น เป็นเกลือที่สกัดจากน้ำทะเลธรรมชาติจากทะเลเมดิเตอร์แรเนียน (French Mediterranean) ซึ่งไม่มีการใช้สารฟอกขาว และอุดมด้วยแร่ธาตุต่างๆ รวมถึงแร่ธาตุไอโอดีนจากน้ำทะเลมากกกว่าเกลือปรุงอาหารทั่วไป หรือเกลือเสริมไอโอดีน (Iodized Salt) ซึ่งเป็นเกลือสินเธาว์ที่มักทำในที่ๆ ห่างไกลทะเลอย่างเช่น เขตจังหวัดภาคอีสาน จึงต้องเติมไอโอดีนเพิ่ม เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้บริโภคเป็นโรคคอหอยพอกนั่นเอง และในปัจจุบัน เราจะเห็นว่ามีเกลือทะเลที่สีชมพูอ่อนๆ ของแม็คคอร์มิคอยู่ในท้องตลาด เกลือที่เราเห็นนั้นคือ เกลือหิมาลายัน ซึ่งมีต้นกำเนิดมากจากบริเวณคาราโครัมแนวตะวันออกของเทือกเขาหิมาลัย เป็นเกลือที่มีประโยชน์และคุณค่าทางโภชนาการสูง และสะอาด เพราะเกิดจากการที่พลังงานแสงแดดจากพระอาทิตย์ทำให้ทะเลในยุคหลายร้อยล้านปีเกิดการแห้งลง เกิดเป็นผลึกของเกลือ โดยรวมแล้ว ทั้งเกลือทะเล และเกลือหิมาลายันของแม็คคอร์มิคนั้น เป็นเกลือจากธรรมชาติที่มีคุณค่าจากแร่ธาตุต่างๆ จากธรรมชาติเหมือนกัน แตกต่างกันที่แหล่งกำเนิดและสีของผลึกเกลือที่ไม่เหมือนกันเท่านั้นเอง

next

End of content

No more pages to load