ดื่มน้ำอะไรดี

Food Fact 14 September 2020

จากการพูดคุยกับนักโภชนาการ พลขอสรุปเหตุผลดี ๆ ของการดื่มน้ำให้เพียงพอ ก่อนอื่น ร่างกายเราประกอบไปด้วยน้ำมากมาย ระบบทางเดินอาหาร สมอง เลือด และน้ำลาย ล้วนต้องใช้น้ำ และนอกจากใยอาหาร น้ำก็เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยเรื่องการขับถ่าย ช่วยให้เราท้องไม่ผูก ร่างกายเราต้องรับน้ำและขับออกในปริมาณประมาณ 3.4 ลิตรต่อวัน น้ำส่วนหนึ่งมาจากอาหารที่เรากิน อีกส่วนก็มาจากน้ำสะอาด 8-10 แก้ว หรือ 2-2.5 ลิตรต่อวันนั่นเอง

เมื่อพูดถึงน้ำไม่มีรสที่เราดื่มกันหลักๆก็จะมีน้ำเปล่าน้ำแร่น้ำอัดแก๊สหรือโซดาซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบของน้ำแร่อัดแก๊สก็ได้เช่นกันขอพูดถึงประเด็นแรกในการพิจารณาว่าเราจะเลือกน้ำเปล่าหรือน้ำแร่ดีแร่ธาตุที่มีอยู่ในน้ำแร่หลักๆได้แก่แคลเซียมแมกนีเซียมโซเดียมและฟลูออไรด์ซึ่งในปัจจุบันมีเพียงบางยี่ห้อที่ระบุสัดส่วนของแร่ธาตุต่างๆให้เราได้ทราบและเราต้องเข้าใจก่อนว่าน้ำดื่มไม่ใช่แหล่งที่ดีที่สุดในการรับแร่ธาตุเหล่านี้เช่นนมเป็นแหล่งของแคลเซียมสำหรับคนที่ดื่มนมไม่ได้อาจจะมาดื่มน้ำแร่แทนเพื่อให้ยังได้รับแคลเซียมบ้างแต่สิ่งที่เราอาจต้องตระหนักก็คือถ้าเราต้องควบคุมการรับแร่ธาตุบางชนิดเช่นฟลูออไรด์ในเด็กหรือหญิงตั้งครรภ์เนื่องจากการรับฟลูออไรด์มากเกินอาจะทำให้ผิวฟันมีลักษณะตกกะดังนั้นถ้าฟันของเด็กเคลือบฟลูออไรด์และใช้ยาสีฟันฟลูออไรด์เป็นประจำเราก็ไม่ควรดื่มน้ำแร่ที่มีสัดส่วนฟลูออไรด์มากเป็นต้น

นอกจากการเปรียบเทียบระหว่างน้ำแร่และน้ำเปล่าแล้ว พลอยากพูดถึงเรื่องของโซดาและน้ำแร่อัดแก๊ส เนื่องจากเพื่อนๆ หลายคนน่าจะเหมือนกับพล คือ ลดการดื่มน้ำอัดลมที่มีน้ำตาลสูง แต่ยังอยากได้ความรู้สึกซ่าๆ ก็เลยหันมาดื่มโซดาแทน ในมุมของนักโภชนาการ โซดาจะมีความเป็นกรดอ่อนๆ แต่ไม่ถึงขั้นที่จะทำให้กระดูกพรุน ถ้าจะมีผลบ้างอาจจะเป็นเรื่องของฟันมากกว่า ซึ่งสามารถแก้ได้ด้วยการดื่มโดยใช้หลอด ข้อดีของโซดาคือ ทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว ให้ความรู้สึกพิเศษกว่าน้ำดื่ม ข้อเสียคือ สำหรับคนที่ไม่ชอบจะรู้สึกไม่สบายตัวหรือจุกเสียด

ทั้งนี้ทั้งนั้นน้ำแต่ละรูปแบบก็มีราคาที่แตกต่างกันไปเลือกที่ดีต่อกายแล้วต้องดีต่อใจสบายกระเป๋าด้วยนะครับ

 

 

ฟัง Podcast ประกอบบทความได้ที่
GoodDiet EP 46 : น้ำดื่มกับโซดา Still or Sparkling?

แชร์